และถ้าถามว่าทำไมผมต้องพูดถึงด้วย? เพราะว่าในวันนี้ผมจะมาเล่าประสบการณ์ที่ผมเจอมาตลอด 2 วัน ว่าเจออะไรมาบ้าง แล้วผมได้ไปสอยอะไรมาในงานนี้ด้วย ซึ่งวันที่ผมเขียนบทความนี้อยู่นั้นคือวันอาทิตย์ที่ 6 ก.ค. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของงานนี้ (จัดเมื่อวันพฤหัสฯ ที่ 3 ก.ค. ที่ผ่านมา) และแน่นอนครับว่าผมมีอะไรพิเศษมาให้คุณผู้อ่านได้ชมกันด้วย เพราะฉะนั้นโปรดติดตามกันได้เลย..
ที่มาของบทความนี้
แต่ทุกท่านครับ อย่าเพิ่งคาดหวังอะไรกับบทความนี้นะครับ เนื่องจากรูปบรรยากาศในงานอาจจะน้อยหน่อย เพราะว่ามือถือเจ้ากรรม Samsung Galaxy A14 ของผม นับวันยิ่งช้าลงเรื่อยๆ ในขณะที่คลิปที่ถ่ายจากกล้อง GoPro Hero 3+ Black Edition ของผมมีเยอะกว่าซะงั้น? ดังนั้นผมอาจจะเล่าเป็นตัวหนังสือเยอะหน่อย ทำใจกันนะครับ😅
เอาล่ะ! เพื่อไม่ให้ล่วงเลยกันไปมาก เชิญอ่านได้เลยครับผม..
บทที่ 1 : เตรียมตัวเตรียมสตางค์ และหาข้อมูลก่อนลงสนามจริง
เพราะว่าในรอบนี้ผมทำการบ้านมาค่อนข้างหนัก เพราะว่าของที่จะต้องเอามาเติมสำหรับเหล่าบรรดาโน้ตบุ๊คที่ใช้งานได้ของผม ซึ่งก็จะมีทั้ง Asus Vivobook 14 ปี 2017 (X442UQ-FA053T - Intel Core i5 Gen 8) หรือ "คุณเนตร", Lenovo ThinkPad X260 สเปกเดนมาร์ก (Intel Core i7 Gen 6) ที่น้องคนดูคนนึงเอามาให้ และ Lenovo ThinkPad Edge E125 (AMD E-150) หรือที่ผมเรียกนางว่า "คุณมุกดา" โดยที่ทั้งหมดนี้ล้วนตกรุ่นทั้งสิ้น ยกเว้นคุณเนตรซึ่งซีพียูเข้าข่ายรองรับ Windows 11 แบบออฟฟิเชียลเลย และมี USB-C อีก (แต่เป็นเวอร์ชัน 3.1 ซึ่งไม่รองรับการต่อจอนอก และชาร์จไฟเข้า Power Delivery) เพราะฉะนั้นก็จะต้อง Research ให้หนัก..
และด้วยความที่รอบนี้พิเศษมากขึ้นไปอีก ผมเลยต้องเก็บเงิน 1,000 บาทแยกไว้ต่างหาก (หลังจากเงินออกวันที่ 20) เพื่อใช้สำหรับซื้อของในงานโดยเฉพาะ (เนื่องจากผมเป็นคนที่เวลาจะซื้ออะไรโดยส่วนมากจะต้องจ่ายเงินในราคาเต็มหมด แต่อาจมีผ่อนจ่ายบ้างเป็นบางกรณีไป แต่ไม่ผ่อนเยอะจนเกินตัวเท่านั้นเองครับ) ที่สำคัญคือมีน้องคนดูกิตติมศักดิ์ท่านนึง ซึ่งก็คือ "น้องเรด" น้องเขาบอกว่าจะไปงานนี้เนื่องในโอกาสวันเกิดของตัวเอง น้องเขาบอกว่าอยากได้คีย์บอร์ดของ Keychron มาก เพราะนางเพิ่งจะถอย MacBook Air M3 13.6 นิ้วไปหมาดๆ ..
บทที่ 2 : เริ่มปล่อยของ ปล่อยโปรโมชัน พร้อมพูดคุยกัน
สำหรับอันต่อมาก็คือ.. ในเพจ Commart Thailand เริ่มปล่อยรายละเอียดของโปรโมชันจากแบรนด์ต่างๆ มากมาย ซึ่งถ้านับเฉพาะแค่ที่เห็นในงานแถลงข่าวอย่างเดียวก็จะเห็นแบรนด์ที่เขาพร้อมจะไปโชว์ในงานหลายแบรนด์เลยแหละ อย่างเช่น Honeywell ที่มาใหม่เป็นต้น... แต่พอเริ่มมีโปรโมชันมาลงในเพจ ผมกับน้องเรดก็พูดคุยกันใน Discord ว่าคิดเห็นอย่างไรบ้าง รวมทั้งความเห็นส่วนตัวที่มีต่อเรื่องนั้นๆ ด้วย ที่สำคัญคือ อย่างเดือดเลยแหละ!!
และด้วยความที่แบรนด์สินค้าไอทีจำนวนไม่น้อยในบ้านเราก็ต่างทยอยปล่อยของกันจนล้นเพจ โดยเฉพาะ SanDisk ที่เพิ่งเปิดตัวชุดผลิตภัณฑ์ Creator Series ที่เน้นเจาะกลุ่มคนทำคอนเทนต์เป็นหลัก ด้วยความเร็วในการเขียนที่สูงมาก และสีสวยที่สุด (แต่ราคาก็สูงตามไปด้วย555)
คุยกันอย่างเมามันมาก จนกระทั่ง...
บทที่ 3 : งานเริ่มในวันธรรมดา แต่พยายามส่องหาอะไรที่น่าสนใจ (พฤ. - ศ.)
โดยทั่วไปแล้ว ทุกครั้งที่งานเริ่ม ในเพจเขาก็เริ่มลงสิ่งที่น่าสนใจลงเพจเสมอๆ เช่นโปรโมชันโน้ตบุ๊ค, อุปกรณ์ไอทีลดราคา ของแถมต่างๆ ที่มีให้ถ้าซื้อตามที่เขาบอก หรือแม้กระทั่งโปรโมชันผ่อนบัตรเครดิต ซึ่งตอนแรกก็ไม่ได้สนใจอะไรหรอกนะ แต่พอเห็นว่ามันมีโปรผ่อนกับ SPayLater ของ Shopee เท่านั้นแหละ... ผมนี่กรี๊ดเลยฮะ!!
ที่สำคัญคือทั้งบูธ IT City และ JIB ก็รับผ่อน SPayLater ด้วยกันทั้งคู่ ... นี่เราใช้ SPayLater ผ่อนของที่ซื้อใน Shopee ซะจนไม่คิดว่าจะจ่ายกับร้านจริงๆ ได้ด้วย...
แล้วก็จะมีของใหม่มากมาย เช่น Acer ที่ไปคอลแลปกับ "หมีเนย" หรือชื่อทางการคือ Butterbear ซึ่งมารันวงการนี้ด้วยการออกรุ่นพิเศษของ Aspire Lite 15 ที่สกรีนรอบเครื่องด้วยลายหมีเนย ซึ่งมันก็น่ารักจริงนะ แต่...
เอาตรงๆ เลยนะ อันนี้คือโน้ตบุ๊คปี 2025 เหรอเนี่ย? ทำไมมีกลิ่นอายของคอมพิวเตอร์ที่ Mattel ทำเอาไว้จัง.. ฝาหลังเครื่องไม่มีโลโก้อะไรเลย มีแค่โลโก้บน Trackpad เท่านั้น แถม Combination สีดูคล้ายๆ Fluttershy จากการ์ตูน My Little Pony อีก ที่หนักกว่านั้นคือน้องเรดก็บอกว่าเครื่องนี้ดูเหมาะกับ Windows XP ด้วย และนอกจากนี้...
ถ้าเราลองสังเกตไปที่ไอคอนบนหน้าเดสก์ท็อป ซึ่งทุกอย่างคัสตอมหมด แต่สำหรับไอคอนของ Recycle Bin นั้น มันมีตัวหนังสือที่เขียนว่า "Recycle Bin" บนนั้นด้วย?
อย่างไรก็ตาม สเปกที่ให้มากลับสวนทางกับหน้าตาของตัวเครื่องไปโดยสิ้นเชิงเลย เพราะว่าเครื่องนี้ใช้ซีพียู AMD Ryzen 5 7430U, RAM 32GB DDR4, SSD 512GB, มี Windows 11 Home พร้อมชุดโปรแกรม Microsoft Office Home 2024 และ Microsoft 365 Basic นาน 1 ปีอีก..
บทที่ 4 : ไปจริงๆ ไม่ติงนัง (เสาร์-อาทิตย์)
โอเคฮะทุกท่าน.. วันโชว์ออฟก็มาถึงฮะ แต่เริ่มที่วันเสาร์กันก่อน เพราะมีอะไรให้ได้เมาท์กันเยอะมาก..
เพราะในช่วงที่ตัวเองก้าวเท้ามาที่ไบเทคเสร็จปุ๊บ ก็เก้าโมงครึ่งแล้ว แต่ประตูเขาเปิด 10:00 น. ก็เลยเข้าเซเว่นฯ ซื้อหน้ากากอนามัยก่อน แล้วไปร้านยาข้างๆ (เพราะคนเยอะมาก) แล้วค่อยกลับมาตอนที่ประตูจะเปิด...
แต่ก่อนที่จะไปเข้างาน ก็ต้องไปหมุนวงล้อลุ้นรางวัลกันก่อน ซึ่งโปรเซสก็ไม่ซับซ้อนมาก ก็คือให้ลงทะเบียนสมาชิกสำหรับผู้เข้าชมที่ไม่เคยมางานนี้มาก่อน และอัพเดทข้อมูลสมาชิกสำหรับคนที่มางานนี้เป็นประจำ พออัพเดทเสร็จก็จะได้หมุนวงล้อกัน ซึ่งตอนแรกก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ลุ้นคูปองเลย แต่..
วงล้อดันมาหยุดที่คำว่า "ลุ้นคูปอง 10,000 บาท" ห๊า!?
แล้วเขาก็ให้เราล้วงไข่ในกล่องหมุน และสิ่งที่ได้คือ..
คูปอง 500 บาทจ้าาาาา
ในที่สุดเราก็ได้สักที หลังจากที่ไม่ได้มาตั้งแต่ตอน TechXPro ละ..
แล้วทีนี้ก็นัดกับน้องเรดกัน ตอนแรกหากันไม่เจอ จนสุดท้ายไปเจอกันที่บูธ Keychron กำลังซื้อคีย์บอร์ด K8 พอดิบพอดี แต่กว่าที่ตัวเองจะไปซื้อก็เกือบเที่ยงละ ก็เลยไปกินข้าวกันที่ Food Yard ชั้น 3 แต่ด้วยความที่ช่วงนี้มีงานเยอะมากๆๆๆ คนก็เลยเยอะเป็นพิเศษ
ส่วนน้องเรดก็จะต้องหาเมาส์เพิ่มอีกตัว โดยที่เขาเลือก Logitech M196 ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับที่ตัวเองใช้พอดี ก็เลยจัดไป สนนราคารวมแล้ว 1,750 บาท (แล้วต่อมาก็ไปซื้อเคสแมคกับติดฟิล์มเพิ่มอีก)
กลับมาที่มิกกี้หมื่นฯ ซึ่งจะต้องหา SSD SATA มาสักยี่ห้อ แต่ปัญหาคือ.. ของ Kingston ไม่มีแบบนี้แล้ว ก็เลยไปดูของ SanDisk แทน ผมเลยซื้อตัวที่เป็น 240GB มา ราคา 590 บาท แต่ว่าใช้คูปอง 500 บาทที่ได้มาด้วย (จริงๆ กะจะเอาตัว 480GB แต่ไม่ทันละ555)
ย้อนกลับมาที่น้องเรดอีกครั้งนึง ผมพาน้องเขาไปหาเคสแมคบุ๊คที่บูธ Apple Sheep ซึ่งตอนแรกเกือบจะไม่มีละ ผลคือมีฮะ แต่มี 2 ลาย ก็คือวันพีชและสไปเดอร์แมน น้องเขาเลยเลือกอย่างแรก ราคา 900 กว่าบาทนี่แหละ (แล้วก็ติดฟีล์มด้วย) จนกระทั่งถึงเวลากลับประมาณบ่าย 2 โมง (สำหรับน้องเขานะ)
และด้วยความที่วันนั้นเป็นวันเสาร์ ผมเลยต้องเปิดฟังรายการโปรดจากช่อง Headlightmag อย่าง DR!VE by J!MMY ตลอดทริป รวมทั้งไปแวะงาน Fast Auto Show ด้วย ซึ่งเป็นงานโชว์รถใหม่และขายรถมือสอง แล้วไปร่วมกิจกรรมรับของที่ระลึก 2 จุด คือบูธ Honda กับ Toyota นั่นเอง...
จนกระทั่งกลับมาที่อิมพิเรียลสำโรงเพื่อซื้อของกินมาตุนไว้ก่อนกลับห้อง และผลลัพธ์จากการไปไบเทคในครั้งนั้น... มีดังในรูปนี้ครับ
ก็.. นั่นแหละครับ สามอย่างตรงกลางที่เห็นนั่นน่ะ ผมจ่ายแค่ 630 บาทเองนะ (ก็คือ SanDisk SSD Plus 240GB 90 บาท + Ugreen USB-C to USB-A 150 บาท + Ugreen CM806 390 บาท) ที่เหลือก็จะเป็นกระเป๋าจากบูธ Toyota ซึ่งเข็มกลัดถอดแยกได้ กับพวงกุญแจ Honda x Ease Around (นี่ยังไม่หมดจากปีที่แล้วอีกเหรอเนี่ย?) เลยทำให้จบไปวันแรก ส่วนอีกวันนึงก็.. ไปถ่ายคลิปบรรยากาศเก็บไว้เฉยๆ แล้วก็ซื้อถ่านก้อนใหญ่สำหรับใส่กับวิทยุธานินทร์เครื่องนั้น แล้วก็แค่นั้นเลยฮะ
แต่ๆๆ พอมาถึงตรงนี้แล้ว... เราก็คงมีคำถามว่า "มิกกี้หมื่นฯ มีโมเมนต์อะไรที่เด็ดๆ บ้างล่ะ?"
- ตอนแรกก็สงสัยมานานมากละ ว่าที่บูธ Epson มีน้ำบูลเบอร์รี่ (?) เอาไว้ทำไม รอบนี้เพิ่งจะมารู้คำตอบว่าเขาแจกฟรีสำหรับคนที่ลงทะเบียน "MyEpson" นั่นเองครับ ซึ่งเครื่องดื่มที่เขาแจกในงานนั้นก็ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว (ชมคลิปได้จากที่นี่ฮะ)
- ในขณะที่ผมกำลังจะนั่งพักอยู่หน้าประตู EH99 อยู่นั้น สายตาเหลือบไปเจอเสื้อกั๊กของ IT City อยู่ที่พื้นพอดี ผมเลยเก็บไปคืนที่บูธเขาทันทีอย่างไม่รีรอ555 (แต่เชื่อเถอะครับ นี่คือการทำบุญอย่างหนึ่งแค่นั้นเอง..)
- อันนี้เข้าใจแหละครับว่ามันนอกเรื่องไปหน่อย แต่ผมไปแวะเวียนโซน SAMA Garden มาครับ ซึ่งเป็นโซนที่เพิ่งจะเปิดใหม่มาได้ไม่นานนี่เอง มีอุปกรณ์สวนครัวมาขายด้วย แต่... เราแค่มาพักผ่อนเองหนาาา
- ทุกวันนี้โน้ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ ของ Lenovo ไม่รู้เป็นไร เพราะว่ามีการเปลี่ยนตำแหน่งโลโก้บนฝาหลังให้มาอยู่ตรงกลางแทนขอบมุมฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ซึ่ง... ผมไม่ชินเลย เรื่องถัดมาคือการนำตุ่ม TrackPoint อันเป็นเอกลักษณ์ของ ThinkPad มาช้านานออกไปใน Lenovo ThinkPad X9 15 Aura Edition (ซึ่งแน่นอนครับว่าไม่ได้มางานนี้ เพราะว่ามันคือไลน์อัพที่คนทั่วไปไม่สามารถซื้อเครื่องมือหนึ่งได้ง่ายๆ... ยกเว้นเครื่องมือสอง) คือจะเอาออกทำไมวะ? ถามหน่อยเถอะ..
- ตรงโซนที่ให้ลองเล่น Nintendo Switch 2 (เฉพาะเครื่องที่ Dock แล้วนะ) มันใช้ Joy-Con รุ่นแรก เป็นสีขาวด้วย ซึ่งตอนที่จะกดปุ่มอะไรต่างๆ นั้น มันดันกดไม่ได้เลย และสภาพดูเหมือนเอาไปทำอะไรสักกะอย่างจนยาง Analog หลุดลุ่ยไปหมด🤔
- บรรดาเมนบอร์ดที่มาพร้อมกับช่องเสียบ PS/2 ตอนนี้เริ่มหายไปละ เพราะว่าเท่าที่ผมไปเจอมาหลายรุ่น โดยเฉพาะที่เป็น AMD หลายรุ่นที่จัดแสดงบนแร็ค ก็ไม่เห็นว่าจะมีช่องนี้ให้เห็นเลยอะ (แต่ของ Intel หรือ AMD บางรุ่นกลับมีอยู่ แต่เป็นรุ่นเก่าๆ นะ)
- ก่อนที่ผมจะซื้อ Ugreen CM806 มาใช้นั้น ผมเคยอยากได้ USB Hub สักรุ่นที่มี USB-C อย่างน้อยๆ 1 ช่อง และที่เหลือเป็น USB-A หมด แต่ทุกวันนี้เทคโนโลยีมันไปไกลเกินกว่าที่คุณเนตรจะรองรับไหว ทำให้ตัวเลือกมีอย่างจำกัดมาก เพราะว่าหลายๆ รุ่นชอบมี PD, HDMI, VGA ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเดี๋ยวนี้ USB-C ทำได้หลายอย่างมาก... ก็เลยเลือกตัวดังกล่าวมาใช้แทนครับ เพราะไม่มี PD แต่ต้องแลกมากับการที่เป็น USB-C ล้วนแบบนั้น..
บทที่ 5 : บทสรุปเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น
เอาตรงๆ เลยนะ... เดินจนขาฉีก555
ล้อเล่น! จริงๆ ก็ถือว่าสนุกอยู่นะ แม้ว่าตัวเองชอบไปทุกรอบจนชินตา ขาประจำก็มาเหมือนเดิม ของใหม่ๆ มาทีละนิด ทีละหน่อย... แต่สังเกตมะ? ว่าหลายสิ่งที่คุณเห็นมาทั้งหมดในวงการไอทีนั่นน่ะ.. เขาติดอวยค่ะ! ชมตลอด แถมขายของด้วย แต่ก็ช่วยไม่ได้แหละเพราะเขาทำเพื่อความอยู่รอดกัน มีผมนี่สิที่พยายามจะเป็นกลางและตรงไปตรงมาสุด แต่กำลังไม่เพียงพอที่จะปั้นตัวเองให้เป็น "สื่อไอที" ได้..
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผมเองต้องทำงานหาเช้ากินค่ำทุกวัน จนแทบไม่มีเวลาให้กับการทำคลิปให้ทุกท่านได้รับชม ไม่มีเวลากับการเขียนบทความให้ทุกท่านได้อ่านกัน (ซึ่งเพิ่งจะมีเวลาก็วันนี้นี่แหละฮะ) จนทุกวันนี้โลกมันก็หมุนเร็วขึ้นอีกหลายเท่า ความขัดแย้งระหว่างประเทศก็มีให้เห็นทุกวันไม่มีแผ่ว..
โอเค.. เมื่อกี้ผมอาจจะนอกเรื่องไปหน่อย แต่นี่คือโลกแห่งความเป็นจริงนะครับท่านผู้อ่าน..
เพราะสิ่งที่คุณเห็นจากสื่อไอทีทุกเจ้า ไม่ว่าจะเมืองไทยหรือเมืองนอก ล้วนแล้วมีแต่คำชมมากมายจนไม่สามารถหาอะไรที่กลางๆ ได้เลย ซึ่งแน่นอนครับว่าเราจะไม่มีทางรู้เลยจนกว่าตัวคุณเองซื้อมาใช้แล้วเจอปัญหา แล้วพอเป็นอย่างนั้นก็มักจะต้องไปถามตามโซเชียลตลอด วนเวียนอยู่แบบนั้น..
และล่าสุด มันก็จะมีเคสของท่านนึงที่เวลาจัดคอมเซ็ตจากร้านดังแล้ว เจอปัญหาบางอย่างซึ่งผมไม่สามารถบอกได้ว่ามันเกิดจากอะไร แต่แน่นอนครับว่าเรื่องนี้เราควรจะต้องแก้ไขปัญหาเป็นการเบื้องต้นก่อน (กรณีที่คุณผู้อ่านมีประสบการณ์ในการประกอบคอมมาก่อน) ถ้าปัญหามันมีแค่นิดเดียว เราก็ไม่จำเป็นต้องเอาไปเคลมให้มันบานปลาย แต่ถ้ามันหนักมากจริงถึงจะเอาไปเคลมได้ อะไรแบบนี้..
อย่างไรก็ตาม สำหรับงานคอมมาร์ตนั้น ก็ยังคงเป็นงานคอมที่น่าไปสำหรับผมอยู่ดี แม้ว่าบรรยากาศในงาน สีสัน หรืออะไรต่างๆ ยังคงเดิมไม่มีเปลี่ยน และยิ่งพอสภาพเศรษฐกิจที่ไม่ดีแบบนี้ ... ยิ่งน่าห่วงเลย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะไม่ไปนะ เพราะจำนวนคนที่เดินในงานเยอะมากๆ ... แต่เอาเถอะครับ ซื้อเท่าที่พอมี เลือกให้เหมาะกับตัวเอง และอย่าอิงจากรีวิวอย่างเดียว ต้องดูความเห็นจากผู้ใช้จริงควบคู่กันไปด้วย... แค่นี้แหละครับที่ผมจะพูด เพราะจะทำให้ตัวคุณเองใช้งานเทคโนโลยีได้อย่างราบรื่น และไม่ต้องมากุมขมับกับปัญหาสารพัดอย่างที่เจอกันตามเน็ตแบบนั้น..
หวังว่าครั้งหน้าจะไม่พลาดละกันเนอะ... แล้วเจอกันใหม่บทความหน้า สวัสดีครับ^^







ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น