มิกกี้หมื่นฯ กับงาน Commart Unlimit | ไปมา 2 วันได้อะไรกลับมาบ้าง?

 

    สวัสดีครับ มิกกี้ ธีรวัฒน์เองครับ...

    ถ้าให้พูดถึง "Commart Thailand" นั้นล่ะก็ เอาเข้าจริงเป็นงานคอมจากบริษัทสื่อเจ้าดังอย่าง ARIP ที่รวมเอาของใหม่มาโชว์ และของที่มีอยู่มาจัดโปรโมชันลดราคาหรือแจกของสารพัดอย่างในงานนี้ ซึ่งในปีนึงเขาจัดถึง 3 รอบ และแน่นอนฮะว่า.. รอบนี้คือรอบที่สองของปี และมีชื่อธีมงานว่า Commart Unlimit นั่นเอง..

    และถ้าถามว่าทำไมผมต้องพูดถึงด้วย? เพราะว่าในวันนี้ผมจะมาเล่าประสบการณ์ที่ผมเจอมาตลอด 2 วัน ว่าเจออะไรมาบ้าง แล้วผมได้ไปสอยอะไรมาในงานนี้ด้วย ซึ่งวันที่ผมเขียนบทความนี้อยู่นั้นคือวันอาทิตย์ที่ 6 ก.ค. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของงานนี้ (จัดเมื่อวันพฤหัสฯ ที่ 3 ก.ค. ที่ผ่านมา) และแน่นอนครับว่าผมมีอะไรพิเศษมาให้คุณผู้อ่านได้ชมกันด้วย เพราะฉะนั้นโปรดติดตามกันได้เลย..

    ที่มาของบทความนี้

    คือต้องเล่าแบบนี้ก่อนว่า ตอนที่เขาประกาศธีมงานวันแรกเนี่ย แผนเดิมของผมคือการทำคลิปเก็บภาพบรรยากาศภายในงานเอามาลง YouTube ให้พวกคุณได้รับชมกัน แต่ด้วยความที่ภายในงานมันรายล้อมไปด้วยผู้คนและเสียงรบกวนมากมาย จนทำให้ผมคิดว่า การทำคลิปที่เกี่ยวข้องกับงานโชว์หรือกิจกรรมนอกสถานที่ของผมนั้น "ไม่ตอบโจทย์เลย" (เห็นได้จากคลิปงานคอมมาร์ตครั้งแรกของผมในปี 2021) และผมเห็นว่าการเขียนบทความพูดถึงงานเหล่านี้มันทำให้ผมได้จดจ่อกับการเขียนได้มากขึ้น เพราะฉะนั้นนับจากนี้เป็นต้นไป ทุกท่านอาจได้เห็นบทความใหม่ๆ ในเว็บนี้มากขึ้น (ถ้าผมมีเวลาให้มันนะ)

    แต่ทุกท่านครับ อย่าเพิ่งคาดหวังอะไรกับบทความนี้นะครับ เนื่องจากรูปบรรยากาศในงานอาจจะน้อยหน่อย เพราะว่ามือถือเจ้ากรรม Samsung Galaxy A14 ของผม นับวันยิ่งช้าลงเรื่อยๆ ในขณะที่คลิปที่ถ่ายจากกล้อง GoPro Hero 3+ Black Edition ของผมมีเยอะกว่าซะงั้น? ดังนั้นผมอาจจะเล่าเป็นตัวหนังสือเยอะหน่อย ทำใจกันนะครับ😅

    เอาล่ะ! เพื่อไม่ให้ล่วงเลยกันไปมาก เชิญอ่านได้เลยครับผม..

    บทที่ 1 : เตรียมตัวเตรียมสตางค์ และหาข้อมูลก่อนลงสนามจริง

    นี่น่าจะเป็นสิ่งที่ทุกคนทำกันอยู่ละ แต่สำหรับผมมันพิเศษกว่านั้นครับ..

    เพราะว่าในรอบนี้ผมทำการบ้านมาค่อนข้างหนัก เพราะว่าของที่จะต้องเอามาเติมสำหรับเหล่าบรรดาโน้ตบุ๊คที่ใช้งานได้ของผม ซึ่งก็จะมีทั้ง Asus Vivobook 14 ปี 2017 (X442UQ-FA053T - Intel Core i5 Gen 8) หรือ "คุณเนตร", Lenovo ThinkPad X260 สเปกเดนมาร์ก (Intel Core i7 Gen 6) ที่น้องคนดูคนนึงเอามาให้ และ Lenovo ThinkPad Edge E125 (AMD E-150) หรือที่ผมเรียกนางว่า "คุณมุกดา" โดยที่ทั้งหมดนี้ล้วนตกรุ่นทั้งสิ้น ยกเว้นคุณเนตรซึ่งซีพียูเข้าข่ายรองรับ Windows 11 แบบออฟฟิเชียลเลย และมี USB-C อีก (แต่เป็นเวอร์ชัน 3.1 ซึ่งไม่รองรับการต่อจอนอก และชาร์จไฟเข้า Power Delivery) เพราะฉะนั้นก็จะต้อง Research ให้หนัก..

    และนี่คือความโชคดีของผมที่งานคอมมาร์ตรอบนี้ตรงกับวันหยุดเสาร์เว้นเสาร์ของบริษัทผมพอดี ก็เลยได้ไปถึง 2 วันรวดเลย.. แต่โอเค กลับเข้าเรื่องต่อ

    และด้วยความที่รอบนี้พิเศษมากขึ้นไปอีก ผมเลยต้องเก็บเงิน 1,000 บาทแยกไว้ต่างหาก (หลังจากเงินออกวันที่ 20) เพื่อใช้สำหรับซื้อของในงานโดยเฉพาะ (เนื่องจากผมเป็นคนที่เวลาจะซื้ออะไรโดยส่วนมากจะต้องจ่ายเงินในราคาเต็มหมด แต่อาจมีผ่อนจ่ายบ้างเป็นบางกรณีไป แต่ไม่ผ่อนเยอะจนเกินตัวเท่านั้นเองครับ) ที่สำคัญคือมีน้องคนดูกิตติมศักดิ์ท่านนึง ซึ่งก็คือ "น้องเรด" น้องเขาบอกว่าจะไปงานนี้เนื่องในโอกาสวันเกิดของตัวเอง น้องเขาบอกว่าอยากได้คีย์บอร์ดของ Keychron มาก เพราะนางเพิ่งจะถอย MacBook Air M3 13.6 นิ้วไปหมาดๆ ..

    ส่วนผม "มิกกี้หมื่นฯ" ก็อยากจะได้ USB Hub มาสักอันนึง กับ SSD SATA ถูกๆ สักตลับเพื่อที่จะมาลงโอเอสอื่นแทน Windows 10 บน ThinkPad X260 เครื่องนั้น (ซึ่งก็ใกล้เข้ามาเต็มแก่ละ) แล้วก็แรมโน้ตบุ๊ค DDR4 2133 MHz ตั้งแต่ 8-16 GB ด้วย...

    บทที่ 2 : เริ่มปล่อยของ ปล่อยโปรโมชัน พร้อมพูดคุยกัน

    สำหรับอันต่อมาก็คือ.. ในเพจ Commart Thailand เริ่มปล่อยรายละเอียดของโปรโมชันจากแบรนด์ต่างๆ มากมาย ซึ่งถ้านับเฉพาะแค่ที่เห็นในงานแถลงข่าวอย่างเดียวก็จะเห็นแบรนด์ที่เขาพร้อมจะไปโชว์ในงานหลายแบรนด์เลยแหละ อย่างเช่น Honeywell ที่มาใหม่เป็นต้น... แต่พอเริ่มมีโปรโมชันมาลงในเพจ ผมกับน้องเรดก็พูดคุยกันใน Discord ว่าคิดเห็นอย่างไรบ้าง รวมทั้งความเห็นส่วนตัวที่มีต่อเรื่องนั้นๆ ด้วย ที่สำคัญคือ อย่างเดือดเลยแหละ!!

    และด้วยความที่แบรนด์สินค้าไอทีจำนวนไม่น้อยในบ้านเราก็ต่างทยอยปล่อยของกันจนล้นเพจ โดยเฉพาะ SanDisk ที่เพิ่งเปิดตัวชุดผลิตภัณฑ์ Creator Series ที่เน้นเจาะกลุ่มคนทำคอนเทนต์เป็นหลัก ด้วยความเร็วในการเขียนที่สูงมาก และสีสวยที่สุด (แต่ราคาก็สูงตามไปด้วย555)

    คุยกันอย่างเมามันมาก จนกระทั่ง...

    บทที่ 3 : งานเริ่มในวันธรรมดา แต่พยายามส่องหาอะไรที่น่าสนใจ (พฤ. - ศ.)

    โดยทั่วไปแล้ว ทุกครั้งที่งานเริ่ม ในเพจเขาก็เริ่มลงสิ่งที่น่าสนใจลงเพจเสมอๆ เช่นโปรโมชันโน้ตบุ๊ค, อุปกรณ์ไอทีลดราคา ของแถมต่างๆ ที่มีให้ถ้าซื้อตามที่เขาบอก หรือแม้กระทั่งโปรโมชันผ่อนบัตรเครดิต ซึ่งตอนแรกก็ไม่ได้สนใจอะไรหรอกนะ แต่พอเห็นว่ามันมีโปรผ่อนกับ SPayLater ของ Shopee เท่านั้นแหละ... ผมนี่กรี๊ดเลยฮะ!!

    ที่สำคัญคือทั้งบูธ IT City และ JIB ก็รับผ่อน SPayLater ด้วยกันทั้งคู่ ... นี่เราใช้ SPayLater ผ่อนของที่ซื้อใน Shopee ซะจนไม่คิดว่าจะจ่ายกับร้านจริงๆ ได้ด้วย...

    แล้วก็จะมีของใหม่มากมาย เช่น Acer ที่ไปคอลแลปกับ "หมีเนย" หรือชื่อทางการคือ Butterbear ซึ่งมารันวงการนี้ด้วยการออกรุ่นพิเศษของ Aspire Lite 15 ที่สกรีนรอบเครื่องด้วยลายหมีเนย ซึ่งมันก็น่ารักจริงนะ แต่...

        เอาตรงๆ เลยนะ อันนี้คือโน้ตบุ๊คปี 2025 เหรอเนี่ย? ทำไมมีกลิ่นอายของคอมพิวเตอร์ที่ Mattel ทำเอาไว้จัง.. ฝาหลังเครื่องไม่มีโลโก้อะไรเลย มีแค่โลโก้บน Trackpad เท่านั้น แถม Combination สีดูคล้ายๆ Fluttershy จากการ์ตูน My Little Pony อีก ที่หนักกว่านั้นคือน้องเรดก็บอกว่าเครื่องนี้ดูเหมาะกับ Windows XP ด้วย และนอกจากนี้...

    ถ้าเราลองสังเกตไปที่ไอคอนบนหน้าเดสก์ท็อป ซึ่งทุกอย่างคัสตอมหมด แต่สำหรับไอคอนของ Recycle Bin นั้น มันมีตัวหนังสือที่เขียนว่า "Recycle Bin" บนนั้นด้วย?

    อย่างไรก็ตาม สเปกที่ให้มากลับสวนทางกับหน้าตาของตัวเครื่องไปโดยสิ้นเชิงเลย เพราะว่าเครื่องนี้ใช้ซีพียู AMD Ryzen 5 7430U, RAM 32GB DDR4, SSD 512GB, มี Windows 11 Home พร้อมชุดโปรแกรม Microsoft Office Home 2024 และ Microsoft 365 Basic นาน 1 ปีอีก..

    ที่สำคัญคือได้ของแถมเป็นเมาส์, กระเป๋า และ Desk Mat (ซึ่งรีบทำไปหน่อยจนลืมลบ Background บนตัวอักศร "B", "b", "a" และ "e" เลย...) ส่วนราคาก็ 19,990 บาทนะฮะ ใครที่สนใจอยู่ก็.. คิดว่าน่าจะหมดแล้วแหละนะ

    บทที่ 4 : ไปจริงๆ ไม่ติงนัง (เสาร์-อาทิตย์)

    โอเคฮะทุกท่าน.. วันโชว์ออฟก็มาถึงฮะ แต่เริ่มที่วันเสาร์กันก่อน เพราะมีอะไรให้ได้เมาท์กันเยอะมาก..

    เพราะในช่วงที่ตัวเองก้าวเท้ามาที่ไบเทคเสร็จปุ๊บ ก็เก้าโมงครึ่งแล้ว แต่ประตูเขาเปิด 10:00 น. ก็เลยเข้าเซเว่นฯ ซื้อหน้ากากอนามัยก่อน แล้วไปร้านยาข้างๆ (เพราะคนเยอะมาก) แล้วค่อยกลับมาตอนที่ประตูจะเปิด...

    แต่ก่อนที่จะไปเข้างาน ก็ต้องไปหมุนวงล้อลุ้นรางวัลกันก่อน ซึ่งโปรเซสก็ไม่ซับซ้อนมาก ก็คือให้ลงทะเบียนสมาชิกสำหรับผู้เข้าชมที่ไม่เคยมางานนี้มาก่อน และอัพเดทข้อมูลสมาชิกสำหรับคนที่มางานนี้เป็นประจำ พออัพเดทเสร็จก็จะได้หมุนวงล้อกัน ซึ่งตอนแรกก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ลุ้นคูปองเลย แต่..

    วงล้อดันมาหยุดที่คำว่า "ลุ้นคูปอง 10,000 บาท" ห๊า!?

    แล้วเขาก็ให้เราล้วงไข่ในกล่องหมุน และสิ่งที่ได้คือ..

    คูปอง 500 บาทจ้าาาาา

    ในที่สุดเราก็ได้สักที หลังจากที่ไม่ได้มาตั้งแต่ตอน TechXPro ละ..

    แล้วทีนี้ก็นัดกับน้องเรดกัน ตอนแรกหากันไม่เจอ จนสุดท้ายไปเจอกันที่บูธ Keychron กำลังซื้อคีย์บอร์ด K8 พอดิบพอดี แต่กว่าที่ตัวเองจะไปซื้อก็เกือบเที่ยงละ ก็เลยไปกินข้าวกันที่ Food Yard ชั้น 3 แต่ด้วยความที่ช่วงนี้มีงานเยอะมากๆๆๆ คนก็เลยเยอะเป็นพิเศษ

    จนในช่วงบ่ายก็ไปหาของกันที่บูธ JIB ซึ่งก่อนหน้าที่น้องเรดจะมา ผมได้ไปถามพนักงานว่ามี USB Hub ตัวไหนบ้างที่ไม่มีพอร์ตต่อจอ กับ PD เพราะว่าตอนแรกกะว่าจะเอาที่เป็น USB-A แต่ต้องมี USB-C อย่างน้อยสัก 1 ช่อง แต่ตัวเลือกน้อยมากซะจนต้องจำใจซื้อ Ugreen CM806 ซึ่งเป็น USB-C ล้วนๆ พร้อมกับหัวแปลง USB-C to USB-A ของยี่ห้อเดียวกัน เพื่อมาเติมเพิ่มอีก...

    ส่วนน้องเรดก็จะต้องหาเมาส์เพิ่มอีกตัว โดยที่เขาเลือก Logitech M196 ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับที่ตัวเองใช้พอดี ก็เลยจัดไป สนนราคารวมแล้ว 1,750 บาท (แล้วต่อมาก็ไปซื้อเคสแมคกับติดฟิล์มเพิ่มอีก)

    กลับมาที่มิกกี้หมื่นฯ ซึ่งจะต้องหา SSD SATA มาสักยี่ห้อ แต่ปัญหาคือ.. ของ Kingston ไม่มีแบบนี้แล้ว ก็เลยไปดูของ SanDisk แทน ผมเลยซื้อตัวที่เป็น 240GB มา ราคา 590 บาท แต่ว่าใช้คูปอง 500 บาทที่ได้มาด้วย (จริงๆ กะจะเอาตัว 480GB แต่ไม่ทันละ555)

    ย้อนกลับมาที่น้องเรดอีกครั้งนึง ผมพาน้องเขาไปหาเคสแมคบุ๊คที่บูธ Apple Sheep ซึ่งตอนแรกเกือบจะไม่มีละ ผลคือมีฮะ แต่มี 2 ลาย ก็คือวันพีชและสไปเดอร์แมน น้องเขาเลยเลือกอย่างแรก ราคา 900 กว่าบาทนี่แหละ (แล้วก็ติดฟีล์มด้วย) จนกระทั่งถึงเวลากลับประมาณบ่าย 2 โมง (สำหรับน้องเขานะ)

    และด้วยความที่วันนั้นเป็นวันเสาร์ ผมเลยต้องเปิดฟังรายการโปรดจากช่อง Headlightmag อย่าง DR!VE by J!MMY ตลอดทริป รวมทั้งไปแวะงาน Fast Auto Show ด้วย ซึ่งเป็นงานโชว์รถใหม่และขายรถมือสอง แล้วไปร่วมกิจกรรมรับของที่ระลึก 2 จุด คือบูธ Honda กับ Toyota นั่นเอง...

    จนกระทั่งกลับมาที่อิมพิเรียลสำโรงเพื่อซื้อของกินมาตุนไว้ก่อนกลับห้อง และผลลัพธ์จากการไปไบเทคในครั้งนั้น... มีดังในรูปนี้ครับ

    ก็.. นั่นแหละครับ สามอย่างตรงกลางที่เห็นนั่นน่ะ ผมจ่ายแค่ 630 บาทเองนะ (ก็คือ SanDisk SSD Plus 240GB 90 บาท + Ugreen USB-C to USB-A 150 บาท + Ugreen CM806 390 บาท) ที่เหลือก็จะเป็นกระเป๋าจากบูธ Toyota ซึ่งเข็มกลัดถอดแยกได้ กับพวงกุญแจ Honda x Ease Around (นี่ยังไม่หมดจากปีที่แล้วอีกเหรอเนี่ย?) เลยทำให้จบไปวันแรก ส่วนอีกวันนึงก็.. ไปถ่ายคลิปบรรยากาศเก็บไว้เฉยๆ แล้วก็ซื้อถ่านก้อนใหญ่สำหรับใส่กับวิทยุธานินทร์เครื่องนั้น แล้วก็แค่นั้นเลยฮะ

    และที่จะให้ดูต่อไปนี้คือภาพบางส่วนที่ผมถ่ายจากกล้อง GoPro ในวันนั้นครับ..

    แต่ๆๆ พอมาถึงตรงนี้แล้ว... เราก็คงมีคำถามว่า "มิกกี้หมื่นฯ มีโมเมนต์อะไรที่เด็ดๆ บ้างล่ะ?"

• ตอนแรกก็สงสัยมานานมากละ ว่าที่บูธ Epson มีน้ำบูลเบอร์รี่ (?) เอาไว้ทำไม รอบนี้เพิ่งจะมารู้คำตอบว่าเขาแจกฟรีสำหรับคนที่ลงทะเบียน "MyEpson" นั่นเองครับ ซึ่งเครื่องดื่มที่เขาแจกในงานนั้นก็ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว (ชมคลิปได้จากที่นี่ฮะ)

• ในขณะที่ผมกำลังจะนั่งพักอยู่หน้าประตู EH99 อยู่นั้น สายตาเหลือบไปเจอเสื้อกั๊กของ IT City อยู่ที่พื้นพอดี ผมเลยเก็บไปคืนที่บูธเขาทันทีอย่างไม่รีรอ555 (แต่เชื่อเถอะครับ นี่คือการทำบุญอย่างหนึ่งแค่นั้นเอง..)

• อันนี้เข้าใจแหละครับว่ามันนอกเรื่องไปหน่อย แต่ผมไปแวะเวียนโซน SAMA Garden มาครับ ซึ่งเป็นโซนที่เพิ่งจะเปิดใหม่มาได้ไม่นานนี่เอง มีอุปกรณ์สวนครัวมาขายด้วย แต่... เราแค่มาพักผ่อนเองหนาาา

    ในขณะเดียวกัน "เรื่องน่าบ่น" สำหรับผมก็มีเป็นกระบุงเลยแหละ!!

• ทุกวันนี้โน้ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ ของ Lenovo ไม่รู้เป็นไร เพราะว่ามีการเปลี่ยนตำแหน่งโลโก้บนฝาหลังให้มาอยู่ตรงกลางแทนขอบมุมฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ซึ่ง... ผมไม่ชินเลย เรื่องถัดมาคือการนำตุ่ม TrackPoint อันเป็นเอกลักษณ์ของ ThinkPad มาช้านานออกไปใน Lenovo ThinkPad X9 15 Aura Edition (ซึ่งแน่นอนครับว่าไม่ได้มางานนี้ เพราะว่ามันคือไลน์อัพที่คนทั่วไปไม่สามารถซื้อเครื่องมือหนึ่งได้ง่ายๆ... ยกเว้นเครื่องมือสอง) คือจะเอาออกทำไมวะ? ถามหน่อยเถอะ..

• ตรงโซนที่ให้ลองเล่น Nintendo Switch 2 (เฉพาะเครื่องที่ Dock แล้วนะ) มันใช้ Joy-Con รุ่นแรก เป็นสีขาวด้วย ซึ่งตอนที่จะกดปุ่มอะไรต่างๆ นั้น มันดันกดไม่ได้เลย และสภาพดูเหมือนเอาไปทำอะไรสักกะอย่างจนยาง Analog หลุดลุ่ยไปหมด🤔

• บรรดาเมนบอร์ดที่มาพร้อมกับช่องเสียบ PS/2 ตอนนี้เริ่มหายไปละ เพราะว่าเท่าที่ผมไปเจอมาหลายรุ่น โดยเฉพาะที่เป็น AMD หลายรุ่นที่จัดแสดงบนแร็ค ก็ไม่เห็นว่าจะมีช่องนี้ให้เห็นเลยอะ (แต่ของ Intel หรือ AMD บางรุ่นกลับมีอยู่ แต่เป็นรุ่นเก่าๆ นะ)

• ก่อนที่ผมจะซื้อ Ugreen CM806 มาใช้นั้น ผมเคยอยากได้ USB Hub สักรุ่นที่มี USB-C อย่างน้อยๆ 1 ช่อง และที่เหลือเป็น USB-A หมด แต่ทุกวันนี้เทคโนโลยีมันไปไกลเกินกว่าที่คุณเนตรจะรองรับไหว ทำให้ตัวเลือกมีอย่างจำกัดมาก เพราะว่าหลายๆ รุ่นชอบมี PD, HDMI, VGA ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเดี๋ยวนี้ USB-C ทำได้หลายอย่างมาก... ก็เลยเลือกตัวดังกล่าวมาใช้แทนครับ เพราะไม่มี PD แต่ต้องแลกมากับการที่เป็น USB-C ล้วนแบบนั้น..

    บทที่ 5 : บทสรุปเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น

    เอาตรงๆ เลยนะ... เดินจนขาฉีก555

    ล้อเล่น! จริงๆ ก็ถือว่าสนุกอยู่นะ แม้ว่าตัวเองชอบไปทุกรอบจนชินตา ขาประจำก็มาเหมือนเดิม ของใหม่ๆ มาทีละนิด ทีละหน่อย... แต่สังเกตมะ? ว่าหลายสิ่งที่คุณเห็นมาทั้งหมดในวงการไอทีนั่นน่ะ.. เขาติดอวยค่ะ! ชมตลอด แถมขายของด้วย แต่ก็ช่วยไม่ได้แหละเพราะเขาทำเพื่อความอยู่รอดกัน มีผมนี่สิที่พยายามจะเป็นกลางและตรงไปตรงมาสุด แต่กำลังไม่เพียงพอที่จะปั้นตัวเองให้เป็น "สื่อไอที" ได้..

    ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผมเองต้องทำงานหาเช้ากินค่ำทุกวัน จนแทบไม่มีเวลาให้กับการทำคลิปให้ทุกท่านได้รับชม ไม่มีเวลากับการเขียนบทความให้ทุกท่านได้อ่านกัน (ซึ่งเพิ่งจะมีเวลาก็วันนี้นี่แหละฮะ) จนทุกวันนี้โลกมันก็หมุนเร็วขึ้นอีกหลายเท่า ความขัดแย้งระหว่างประเทศก็มีให้เห็นทุกวันไม่มีแผ่ว..

    โอเค.. เมื่อกี้ผมอาจจะนอกเรื่องไปหน่อย แต่นี่คือโลกแห่งความเป็นจริงนะครับท่านผู้อ่าน..

    เพราะสิ่งที่คุณเห็นจากสื่อไอทีทุกเจ้า ไม่ว่าจะเมืองไทยหรือเมืองนอก ล้วนแล้วมีแต่คำชมมากมายจนไม่สามารถหาอะไรที่กลางๆ ได้เลย ซึ่งแน่นอนครับว่าเราจะไม่มีทางรู้เลยจนกว่าตัวคุณเองซื้อมาใช้แล้วเจอปัญหา แล้วพอเป็นอย่างนั้นก็มักจะต้องไปถามตามโซเชียลตลอด วนเวียนอยู่แบบนั้น..

    และล่าสุด มันก็จะมีเคสของท่านนึงที่เวลาจัดคอมเซ็ตจากร้านดังแล้ว เจอปัญหาบางอย่างซึ่งผมไม่สามารถบอกได้ว่ามันเกิดจากอะไร แต่แน่นอนครับว่าเรื่องนี้เราควรจะต้องแก้ไขปัญหาเป็นการเบื้องต้นก่อน (กรณีที่คุณผู้อ่านมีประสบการณ์ในการประกอบคอมมาก่อน) ถ้าปัญหามันมีแค่นิดเดียว เราก็ไม่จำเป็นต้องเอาไปเคลมให้มันบานปลาย แต่ถ้ามันหนักมากจริงถึงจะเอาไปเคลมได้ อะไรแบบนี้..

    อย่างไรก็ตาม สำหรับงานคอมมาร์ตนั้น ก็ยังคงเป็นงานคอมที่น่าไปสำหรับผมอยู่ดี แม้ว่าบรรยากาศในงาน สีสัน หรืออะไรต่างๆ ยังคงเดิมไม่มีเปลี่ยน และยิ่งพอสภาพเศรษฐกิจที่ไม่ดีแบบนี้ ... ยิ่งน่าห่วงเลย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะไม่ไปนะ เพราะจำนวนคนที่เดินในงานเยอะมากๆ ... แต่เอาเถอะครับ ซื้อเท่าที่พอมี เลือกให้เหมาะกับตัวเอง และอย่าอิงจากรีวิวอย่างเดียว ต้องดูความเห็นจากผู้ใช้จริงควบคู่กันไปด้วย... แค่นี้แหละครับที่ผมจะพูด เพราะจะทำให้ตัวคุณเองใช้งานเทคโนโลยีได้อย่างราบรื่น และไม่ต้องมากุมขมับกับปัญหาสารพัดอย่างที่เจอกันตามเน็ตแบบนั้น..

    หวังว่าครั้งหน้าจะไม่พลาดละกันเนอะ... แล้วเจอกันใหม่บทความหน้า สวัสดีครับ^^

    

[Site Update] ปรับหน้าเว็บใหม่ในรอบหลายปี.. สักที

 

    สวัสดีครับ มิกกี้ ธีรวัฒน์เองครับ..

    หลังจากที่ไม่ได้มาที่นี่หลายปี วันนี้มาพร้อมกับรูปแบบใหม่ละ แต่รอบนี้เปลี่ยนธีมใหม่ละ จาก Contempo เป็น Awesome Inc. Dark (หรือชื่อไทยคือ "บริษัทนี้ดี จำกัด" นี่คือชื่อเรอะ?) เพื่อให้เข้ากับคาแรกเตอร์ของเว็บนี้ และที่สำคัญคือผมเพิ่งจะปรับแก้วิดเจ็ต CSS ของ Discord แล้วก็ลดขนาดโลโก้เว็บให้เล็กลงไปอีก รวมทั้งอัพเดทอะไรหลายๆ อย่าง ซึ่งทั้งหมดนี้เนี่ย... ถ้าถามว่าผมพร้อมที่จะกลับมาเขียนบล็อกบนนี้ต่อมั้ย? มีสิทธิ์ครับ แต่จะมาในรูปแบบไหนนั้นจะเป็นอีกเรื่องนึง เพราะฉะนั้น รอดูได้เลยฮะ

    แต่โอเค ไปละ^^

เมื่อมิกกี้หมื่นฯ ไปงาน Thailand Game Show 2023 เป็นครั้งแรก

สวัสดีครับ มิกกี้ ธีรวัฒน์เองครับ...

นี่น่าจะเป็นบทความแรกๆ ที่เขียนลงบล็อกบน NanandmicNext จริงๆ (หลังจากที่ไม่ได้เขียนอะไรเลยมาเป็นชาติแล้ว555) และนี่อาจเป็นบทความเล่าประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และท้าทายที่สุดในประวัติศาสตร์ของ "มิกกี้หมื่นฯ" เลยก็ว่าได้

เพราะว่าในวันอาทิตย์ที่ 22 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ผมเพิ่งจะได้ไปงาน Thailand Game Show 2023 : Assemble! ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งเป็นงานเกมที่ผมเคยรู้จักมาตั้งแต่สมัยแบไต๋ไฮเทคยังออกอากาศบนทีวีดาวเทียมอยู่ (เพราะว่าคนจัดคือ Show No Limit) และเป็นงานเกมที่ไม่ใช่แค่ระดับประเทศด้วย เพราะว่านี่คือ "งานเกมชั้นนำระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเชียงใต้" (คำสร้อยยาวแท้ แต่เอาง่ายๆ คืองานเกมระดับอาเซียนนั่นแหละ)

ในขณะเดียวกัน คุณผู้อ่านคงจะเริ่มสงสัยว่าทำไมผมถึงไปงานแสดงผลิตภัณฑ์ต่างๆ ด้วยตัวเองเช่นนี้ และถ้ามีใครถามผมว่า "คุณไปงานพวกนี้มากี่รอบแล้ว?"

ถ้าจะให้ผมตอบนะ ก็ประมาณ 8 รอบน่ะครับ

เพราะว่าเมื่อก่อน ผมยังไม่เคยที่จะออกไปหาอะไรใหม่ๆ นอกบ้านเลย แต่เนื่องจากผมป่วยเป็นออทิสติกด้วย ดังนั้นจึงไม่กล้าที่จะออกไปที่ไหนเลยนอกจากห้างสรรพสินค้าที่ตัวเองรู้จักเท่านั้น (พอโควิดระบาดก็ดับสนิทเลยฮะ อยู่แต่บ้าน555) แต่เมื่อพอโควิดเริ่มซาลงช่วงประมาณเดือนพฤศจิกายน 2564 กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมต้องไปหาสิ่งใหม่ๆ โดยการไปงาน Commart Bright 2021 ที่ไบเทค บางนา ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผมเดินทางไปในสถานที่ที่ผมไม่เคยเข้าถึงมาก่อนในอดีต และเป็นการพัฒนาตนเองภายในตัว ทำให้ทุกครั้งที่มีข่าวเกี่ยวกับงานแสดงคอมพิวเตอร์ (หรือรถยนต์ เช่น Big Motor Sale) ผมก็จะไปทุกครั้งที่มีงานพวกนี้... ซึ่งคุณผู้อ่านสามารถรับชมคลิปที่ผมเคยไปได้ที่ช่อง YouTube: Mickey Teerawath ครับผม

แต่ในครั้งนี้... กลับทำให้ผมต้องเลิกความตั้งใจเดิมๆ ว่า "มิกกี้หมื่นฯ จะต้องไปไบเทคฯ ที่เดียวเท่านั้น!! ที่อื่นมันไกลไป!!!" แบบนั้นโดยสิ้นเชิง

เพราะว่า 3 วันก่อนที่งานจะเริ่ม ทาง NotebookSpec เขาก็ปล่อยบทความโปรโมตของ Lenovo เรื่องงาน Thailand Game Show 2023 ที่เขาจะไปจัดกันที่นั่น ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆ ทั้งแข่งเกม, meet & greet กับนักแคสฯ จากเกม EA Sports FIFA (ซึ่งตอนนี้เป็น EA Sports FC 24 ไปแล้ว) ซึ่งไม่รู้จักเลยยกเว้นพี่เบ้น อาปาเช่กับดีเจอาร์ต... แปลกมั้ยล่ะ

ซึ่งพออ่านดูแล้ว ตัวผมเองก็ต้องมาคิดกันต่อว่าควรจะไปงาน TGS ก่อน หรือรองาน Commart ปลายปีทีเดียวจบๆ กันแน่ ก็เลยตั้งโพลล์ขึ้นมาในเพจ Facebook ดู ผลคือทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า "ควรจะไปงาน TGS ก่อน" โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "น้องธาม (Ranviee)" น้องชายคุณผู้ชมสุดเลิฟที่ให้สารพัดอุปกรณ์ไอทีของผมเอง เขาก็มีแพลนจะไปงานนี้ด้วยเหมือนกัน ซึ่งก็แน่แหละ เลยทำให้มิกกี้หมื่นฯ ยืนยันคำพูดด้วยตัวเองว่า...

"ผมจะไปงานนี้จริงๆ ครับ"

และไม่ใช่แค่นั้นแน่ๆ เพราะในวันถัดมา ทาง "เวสเทิร์น ดิจิตอล หรือ WD" เขาก็จะไปออกบูธในงาน Thailand Game Show 2023 ด้วยเช่นกัน ซึ่งในรายละเอียดในบทความนั้นบอกเลยว่าน่าสนใจพอสมควรเพราะมีโซน Gaming experiential ที่มีเกมให้เล่นตั้งแต่บนพีซีไปจนถึงเกมมือถือเลย แต่มันก็จะมีคอมพิวเตอร์ประเภท "เครื่องเล่นพีซีแบบพกพาหรือ handheld PC" ที่ผมจะได้ลองเล่น "เป็นครั้งแรก" กันในงานด้วย และพูดถึงฟิลลิ่งการใช้งานจริงๆ ว่าจะเป็นอย่างไร...

การเดินทางจากบ้าน - ศูนย์ฯ สิริกิติ์

ในทุกๆ ครั้งที่ผมไปงานแสดงสินค้า ผมมักจะนึกถึง "ไบเทค บางนา" เสมอ เพราะเป็นสถานที่หลักของงาน Commart ในยุคหลังๆ แต่ถ้าเป็นสมัยก่อน เขาเคยจัดที่ "ศูนย์ฯ สิริกิติ์" มาก่อน ซึ่งถ้าเกิดวันดีคืนดี อยู่ๆ งาน Commart ที่เราไปเป็นประจำจะกลับไปจัดที่นั่นล่ะ จะทำยังไง?

โชคยังดีที่ Route ระหว่างไปไบเทคกับไปศูนย์ฯ สิริกิติ์ไม่ได้ซับซ้อนมาก... แต่ก็ถือว่าลำบากนิดหน่อย เพราะโดยปกติแล้ว ผมจะขี่ จยย. ไปจอดที่ปั๊มน้ำมันแถวปากซอย -> ข้ามสะพานลอย -> นั่งสองแถวเส้นพระประแดง-สำโรง ไปลงที่แถวๆ แยกเทพารักษ์ (สายนอก - แต่ถ้านั่งจากสายในก็จะลงอิมพิเรียล สำโรง แล้วขึ้น Skywalk ที่สถานีสำโรง) -> ขึ้น BTS สายสีเขียว (เคหะ-คูคต) แล้วลงสถานีบางนา จบ!

แต่ถ้าจุดหมายของผมเป็น "ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์" ล่ะ... ?

ผมอาจจะต้องเลยสถานีบางนาอีก 8 สถานีเพื่อไปลงที่สถานีอโศก -> จากนั้นนั่งรถไฟใต้ดินสายสีน้ำเงินจากสถานีสุขุมวิทเพื่อไปลงที่ "ศูนย์ฯ สิริกิติ์" แล้วจบ!

ซึ่งวันที่ผมไปในวันนั้นบอกเลยว่า "เกือบขิต" เพราะว่าผมท้องเสียแต่เช้า555 ก็เลยต้องพกยาธาตุน้ำขาวมาด้วย... แต่ไม่เป็นไร ผมได้จับเวลาการเดินทางจากบ้านไปศูนย์ฯ สิริกิติ์ ได้... 1 ชม. 16 นาทีครับผม!!!

รายละเอียดการจัดงาน

เนื่องจาก TGS 2023 เขาจัดคู่กับงาน Wonder Festival ด้วย ทำให้ผมต้องซื้อบัตรเฉพาะงานที่ผมอยากไปมากที่สุด (ซึ่งก็คือ TGS นั่นแหละฮะ) แต่กระบวนการซื้อบัตรมันต้องทำแบบออนไลน์หมดเลย... ไม่เหมือนกับกรณีของ Big Motor Sale 2023 ครั้งล่าสุดที่ขายเป็นบัตรเข้างานปกติ (ซึ่งครั้งนั้นเขาเปิดโอกาสให้คนที่มีบัตรคนพิการเข้าชมได้ โดยที่ไม่ต้องเสียเงินสักบาท)

บรรยากาศในงาน

เรื่องบรรยากาศภายในงานนี่... ผมว่าไม่เท่าไหร่นะ

เพราะว่างานนี้เขาเน้นเรื่องเกมเป็นหลัก เลยทำให้มีค่ายเกมต่างๆ ขนเกมมาให้เราได้เล่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Sega, Bandai Namco หรือ HoYoVerse เจ้าของเกมดังในตำนาน Genshin Impact ก็มาด้วย

แต่ในฐานะที่ผมเป็น "สุภาพบุรุษสายไอที" นั้น ... บอกเลยว่าไม่น่าพลาดครับ เพราะว่าทาง Intel, Logitech G, Western Digital รวมถึงแบรนด์อื่นๆ เขาก็ขนเกมมิ่งเกียร์มาขาย และมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกเยอะมากๆ เลยครับ

แต่ก็นะ... ผมขอเริ่มต้นที่บูธแรกเลยละกัน

Intel

โปรเซสเซอร์คอมฯ ขวัญใจข้าราชการไทยอย่าง Intel เขาก็มีของใหม่มาโชว์เป็นพระเอกในงานเลย นั่นคือ Intel Core เจนเนอเรชั่นที่ 14 "Raptor Lake-S Refresh" ครับผม 

ซึ่งก็แน่แหละครับ ว่าจุดเด่นคร่าวๆ ของมันก็จะมีทั้งฟีเจอร์ AI Assist ที่เข้ามาใช้ในการโอเวอร์คล็อก CPU หรือ Efficient-core ที่เพิ่มขึ้น แบบนี้เป็นต้น

ส่วนในบูธนั้นก็จะมีกิจกรรมให้เล่นมากมาย ซึ่งมีเกมให้เราเล่นเพื่อลุ้นรางวัล ไม่ว่าจะเป็น Valorant, Apex Legends และ Forza Motorsport ภาค 7 ที่เว้นระยะจากภาคก่อนๆ ไปนานซะจนเราลืมไปเลยว่าเคยมี และเป็นเกมเดียวที่ผมได้เล่นจริงๆ (เนื่องจากผมชอบเล่นเกมแข่งรถเท่านั้นฮะ555)

ซึ่งพอเล่นไปแล้วกลายเป็นว่ามีจังหวะนึงที่รถเสียการควบคุมจนไปชนกับกำแพง ก็เลย... ได้ที่ 2 ครับ555

ส่วนโน้ตบุ๊คที่ทางอินเทลเขามาจัดแสดงในงานนี้ ต้องบอกว่ามีเครื่องนึงที่ผมชอบมากๆ และอยากได้ที่สุด นั่นคือ Asus ROG Flow Z13 แท็บเล็ตวินโดวส์สายเกมมิ่งที่มองผ่านๆ อาจเหมือน Microsoft Surface Pro แต่พอไปเห็นจริงกลับไม่ใช่ซะงั้น.. สเปคเป็น Intel Core i9 พ่วงด้วย Nvidia GeForce RTX 3050 Ti แรม 16GB ครับผม (ซึ่งบอกตรงๆ เลยว่าอยากได้มากๆ ไม่รู้ว่าทางพีอาร์ของ Asus ประเทศไทยเขาจะเห็นบทความของเราด้วยหรือเปล่านะ555)

ส่วนของ Lenovo เขาก็เอาตัว Legion 9i มาโชว์ตัวเรียกน้ำย่อยกันก่อน แต่ว่ายังไม่ประกาศราคา ณ วันที่ทำบทความนี้อยู่

แต่ก็น่าแปลก ที่ฝาหลัง Forged Carbon ของเขาทำให้ผมนึกถึง "ลูกนิมิต" ตามงานวัดซะงั้น?

แถมในงานมีเซอร์ไพรส์เล็กๆ เพราะผมเหลือบไปเห็นพี่ต้าร์ Mr. Team (คนซ้าย) ที่เคยออกรายการเพชรตัดเพชร เป็นผู้ดำเนินรายการในกิจกรรม EA FC Online ด้วย???

ส่วนในช่วงบ่ายวันนั้นก็จะมี HP ที่เขาจะมานำเสนอผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในงานนี้ด้วยเช่นกันครับ

แต่นั่นคือส่วนหนึ่งนะ ที่เหลือก็ไปตามข่าวพีอาร์จาก NBS ละกัน

เอาละ... ไปบูธอื่นต่อ

Razer + Western Digital

จริงๆ แล้วบูธนี้ เขาก็มีของใหม่นะครับ อย่าง WD_BLACK SN770M SSD M.2 NVMe ไซส์มินิสำหรับ handheld PC จำพวก Steam Deck อะไรแบบนี้แหละ แต่เรื่องกิจกรรมในบูธนี้ บอกเลยว่าโอเคมากๆ (ผมได้เล่นเกม Aimlab บนพีซีกับเกมต่อสู้บนมือถือด้วย แต่ว่าจำชื่อไม่ได้ แถมได้กระเป๋าดินสอด้วย)

แต่ที่ผมได้ลองจับของจริงๆ นั่นคือ Asus ROG Ally ครับ ซึ่งเอาจริงๆ มันก็คือคู่แข่งของ Steam Deck ที่ยังไม่มีขายในบ้านเรา (สักที) ซึ่งผมลองถือดูเล่นๆ แล้วพบว่ามันก็น้ำหนักเบาในประมาณหนึ่ง แถมไม่ร้อนมากเมื่อถือด้วย แต่ว่าเครื่องนี้คือหนึ่งในกิจกรรมที่อยู่ในโซน Gaming experiential ในบูธของ WD ครับผม

โซนของกิน (Farmhouse / CP ฯลฯ)

นี่คือสภาพผมหลังเจอ Fumi Hausu ฮะ555

ของกินในงาน TGS 2023 นี่คือดีงามมากกก~~ ไม่ว่าจะเป็นไส้กรอก CP, ขนมปังฟาร์มเฮ้าส์ หรือแม้แต่สาหร่ายเถ้าแก่น้อย เขาก็มาครับ แถมอร่อยด้วย...

หิวนะเนี่ยเรา555

ภาพกิจกรรมอื่นๆ ภายในงาน + บทส่งท้าย

สำหรับรูปสุดท้ายนั้นก็คือน้องธามเจ้าประจำของเรานั่นเอง ซึ่งเขามาตอนประมาณบ่าย 2 โมง ซึ่งน่าจะเป็นครั้งแรกๆ ที่ได้เจอแฟนคลับอาวุโสในงาน555

แต่ต้องยอมรับว่าในงานนี้มีคนที่แต่งคอสเพลย์ค่อนข้างจะเยอะ (รวมถึงน้องธามของเราด้วย555) แถมโซนขายของก็มีด้วยนะครับ ซึ่งเขามีกระทั่งแผ่นรองเมาส์ทรงประหลาดด้วย555

แต่ก็นะ... ตอนขากลับต้องยอมรับเลยว่ากลับมืดที่สุดในประวัติศาสตร์การไปงานแสดงสินค้าของผม และใช้พลังงานสูงที่สุดอีกด้วย

ซึ่งตอนขากลับนั้นก็ไปเจอน้องธามหน้าประตูทางเข้าฮอลล์พอดี ก็เลยแวะไปทักทายเล็กๆ น้อยๆ พร้อมกับถามสถานการณ์ "น้องหมึกน้อย (โน้ตบุ๊ก Acer Aspire 4315 เครื่องเก่า)" ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งคำตอบที่ได้ผมถึงกับอึ้งเมื่อได้รับข่าวว่า "น้องเขาขายไปแล้ว" แต่ไม่ถึงกับเคืองเลยเพราะว่าน้องเขาขายได้ 300 บาท (ถูกที่สุดเท่าที่เคยมีมา5555)

อีกเรื่องที่เพิ่งเล่าให้น้องธามฟังคือ "การรีวิวแบบตรงไปตรงมา" ซึ่งมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า "การรีวิวเผาผลิตภัณฑ์" ซึ่งไม่มีสื่อไอทีเจ้าไหนในบ้านเราทำเลย และน้องเขาก็อธิบายเพิ่มด้วยว่าการรีวิวแบบนั้นทำให้คนดูเพิ่มขึ้นจริง แต่มันแลกกับการไม่ลงสปอนเซอร์จากผู้ผลิต ซึ่งตรงนี้ผมเข้าใจได้ (แต่ถ้า Squarespace กับ Skillshare มาสปอนเซอร์ช่องผมเมื่อไหร่ผมจะจับลงถังขยะทันทีครับ บอกไว้ก่อน) แต่อาจจะเปิดให้ลงสปอตโฆษณาแบบเดียวกับที่ Headlightmag ทำในรายการช่วงวันเสาร์อย่างนั้นเป็นต้น สุดท้ายก่อนจะเดินทางกลับ ด้วยความที่เขาเคยเอื้อเฟื้อของทุกอย่างมาให้ผม ก็เลยขอกอดน้องธามเพื่อเป็นการขอบคุณในทุกๆ การสนับสนุนทุกอย่าง จากเดิมที่มียอดซับมีแค่หลักสิบ จนถึงตอนนี้ก็เข้าใกล้หลักพันแล้วด้วย... ยังไงมิกกี้หมื่นฯ คงจะต้องอวยพรขอให้ตั้งใจเรียนละกันเนอะ อีกปีเดียวก็จะใกล้จบมหาฯ ลัยละ สู้ๆ ^^

อ้อ! ก่อนที่จะจบบทความนี้ ผมมีเรื่องจะเล่าให้ฟังอย่างนึง...

ตอนผมกำลังจะผ่านบูธของ HoYoVerse นั้น ผมเพิ่งเดินสวนทางกับชายหญิงคู่หนึ่งที่ผมเห็นแล้วคุ้นตาสุดๆ แล้วนึกในใจว่า "ใช่คนเดียวกันกับที่เป็นเจ้าของรถ MG ES คันนั้นรึเปล่านะ?" พอรีเช็คเท่านั้นแหละครับ ถึงบางอ้อเลยทีเดียว...

เพราะที่ผมสวนมานั้นคือพี่ๆ จากช่อง "NatWarm Channel" นั่นเองครับผม!!! ซึ่งพวกเขาก็มางานนี้เหมือนกันด้วย จนตัวเองเขินแทบแย่555 แต่ที่พีคที่สุดคือหลังจากที่ผมไปคอมเม้นท์โพสต์ Dollce เสร็จแล้ว พี่เขาก็มาเห็นโพสต์ที่ผมถ่ายรูปกับสแตนดี้ Fumi Hausu ของฟาร์มเฮาส์อีก แถมกดฟอลโลว์ผมด้วย!? ... แต่ก็นะครับ ยังไงกระผมก็ต้องกล่าวขอบคุณมากๆ นะครับที่ซัพพอร์ตมิกกี้หมื่นฯ และผมจะพยายามต่อไปให้ดีที่สุดด้วย ขอบคุณคร้าาบบบบ~~~

ยังไงก็... เจอกันปีหน้าเนอะ :)

ขอบคุณ และสวัสดีครับ